"9 เคล็ดลับเพิ่มอันดับการค้นหาของ Google ให้กับบทความใหม่ๆได้แบบติดสปีด! - รับทำ SEO","ในขณะที่คุณสร้างเนื้อหาใหม่ขึ้นมา คุณอาจจะมองเห็นใช่ไหมว่ามันจำเป็นที่จะต้องใช้เวลา เพื่อให้บทความของคุณติดอันดับ Google ในหน้าผลการค้นหาแต่นี้ต่อไป คุณจะไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับการติด อันดับ Google ช้าอีกแล้ว เนื่องจากพวกเราได้นำแนวทางที่ช่วยให้บทความของคุณติดอันดับการค้นหาของ Google แบบติดสปีดมาฝากกัน!Neil Patel นักการตลาดมีชื่อคือเจ้าของเทคนิคในวันนี้ เขาเป็นคนที่มีผลแล้วก็บรรลุผลสำเร็จในแวดวงธุรกิจออนไลน์ เกิดเรื่องน่าตื่นเต้นที่เราจะได้รู้แนวทางของเขาในวันนี้คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหาก Neil สร้างเนื้อหาใหม่ แล้วโพสต์ลงเว็บ?คำตอบเป็น Google จะกระทำการเข้ามาในเว็บ แล้วเก็บข้อมูลบทความของเขาภายในวันที่เขาโพสต์บทความ แล้วก็บทความของเขาจะติดอันดับ Google สูงๆภายในหนึ่งอาทิตย์ เมื่อทดลองดูคะแนนโดเมนเว็บไซต์ของ Neil คะแนนของเขามากถึง 94 คะแนน และก็มี backlinks กว่า 633,791 ลิงก์ ตามรูปที่แสดงด้านล่างซึ่งตารางนี้การันตีได้ถึงความสำเร็จของ Neil แต่ถ้าหากคุณมิได้มีคะแนนโดเมนสูง หรือมี backlink เท่ากับ Neil ล่ะ จะกำเนิดอะไรขึ้น? คำตอบเป็น โอกาสที่ Google จะเข้าถึงเว็บและเก็บข้อมูลบทความคุณก็จะน้อยมาก วิถีทางสู่การตำหนิด อันดับ Google ในลำดับหนึ่งจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยแต่ยังไงก็ไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจไป เนื่องจากว่ายังมีทางออกสำหรับผู้ใดกันแน่ที่ประสบปัญหานี้ แถมยังเป็นวิธีที่ไม่ต้องเพิ่ม backlink ให้เสียเวลาอีกด้วย เพื่อตอบโจทย์และช่วยเหลือมือใหม่ Neil จึงได้ตัดสินใจกระทำการทดลอง เขาส่งอีเมลไปยังบริษัทต่างๆที่เขารู้จัก เพื่อชักชวนพวกเขาให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งสำหรับในการทดลองทาง SEO นี้ผลตอบรับดีเกินคาด มีมากยิ่งกว่าหนึ่งพันบริษัทเต็มใจเข้าร่วมการทดสอบนี้ Neil จำต้องลดจำนวนผู้เข้าร่วมลง เพื่อการทดสอบกำเนิดคุณภาพมากที่สุด โดยได้กำหนดว่าบริษัทที่จะร่วมได้นั้นควรจะมีคะแนนโดเมนไม่เกิน 30 คะแนน มี backlink ไม่เกิน 40 ลิงก์ แล้วก็ควรเป็นเว็บที่ไม่ใช่เว็บไซต์ย่อย ยกตัวอย่างเช่น ไม่ใช่ domain.wordpress.com ฯลฯหลังจากที่ได้ทำการคัดเลือกแล้ว มี 983 บริษัทที่เต็มใจร่วมการทดลองของ Neil แม้กระนั้นในเวลาต่อมา 347 บริษัทได้หยุดส่งผลการทดสอบ จึงเหลือแค่ 636 บริษัทเพียงแค่นั้นสำหรับเพื่อการทดสอบนี้ขั้นตอนของการทดลอง SEONeil ได้ให้ทุกบริษัทเขียนเนื้อหาบทความใหม่ขึ้นมา โดยไม่ได้ชี้เฉพาะหัวข้อว่าจำเป็นต้องเกี่ยวกับอะไร แม้กระนั้นกำหนดปริมาณคำว่าควรจะมีความยาว 1,800 – 2,000 คำแค่นั้นเหตุผลที่ต้องจำกัดจำนวนคำเป็นเนื่องจาก บทความควรจะมีความยาวพอเหมาะ เพื่อสามารถใส่คีย์เวิร์ดลงไปได้อย่างเหมาะควร จริงๆแล้ว ถ้าเกิดเขียนบทความได้ยาวมากมายเยอะแค่ไหน ก็ยิ่งได้โอกาสติดอันดับบน Google ได้มากขึ้น ดังเช่นว่า บทความที่มีจำนวนคำ 10,000 คำขึ้นไปทุกบริษัทมีเวลา 30 วันในการเขียนเนื้อหาของบทความแล้วก็โพสต์ลงเว็บ โดยด้านใน 30 วันที่บทความถูกโพสต์เรื่อยนั้น Neil ได้พิจารณา URL จาก Ubersuggest เพื่อมองฐานข้อมูลว่ามีคีย์เวิร์ดปริมาณเยอะแค่ไหน ที่ทำให้บทความติดอันดับท็อป 100 ท็อป 50 แล้วก็ท็อป 10Neil ยังทำดูนี้ถัดไปอีก 60 วัน เพื่อมองว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกหรือไม่ โดยฐานข้อมูลของ Ubersuggest ทำให้เห็นว่า มีคีย์เวิร์ดกว่า 1,459,103,429 คำจากทุกภาษาทั่วโลก แม้กระนั้นสำหรับเพื่อการทดสอบนี้เน้นเพียงแค่ภาษาอังกฤษแค่นั้นต่อจากนั้น Neil ก็เลยจัดชนิดและประเภทของเว็บไซต์ที่ร่วมกระทำการทดลองออกเป็น 9 หมวด ประมาณคร่าวๆว่ามี 70 เว็บไซต์ในแต่ละหมวด โดย 9 หมวดนั้นมีดังต่อไปนี้1. Control Group – กลุ่มนี้เป็นกรุ๊ปที่ผลิตบทความออกมา แต่ว่าไม่มีการโฆษณาหรือใช้กลยุทธ์ SEO อะไรก็ตามซึ่งถือว่าเป็นกรุ๊ปที่ทำให้มองเห็นสิ่งที่แตกต่างระหว่างการใช้ และไม่ใช้กลอุบายเพื่อเพิ่มอันดับ Google เจริญทีเดียว2. Sitemap – กลุ่มนี้จะเน้นการใช้ Sitemap หรือไฟล์ที่เก็บรวบรวมลิงก์ต่างๆที่อยู่บนเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกดูข้อมูลได้สบายขึ้น พวกเขาจะเพิ่มหัวข้อของบทความไปยัง Sitemap ของตนเอง ส่วน Neil จะตรวจตราให้มั่นใจว่า Sitemap กลุ่มนี้ได้ถูกเพิ่มเข้าไปใน Google Search Console3. Internal Linking – กลุ่มนี้จะเพิ่ม internal link 3 ลิงก์จากบทความเก่ามาใส่ไว้ในบทความใหม่ เพื่อทำให้ผู้เข้าชมสามารถเลือกอ่านผลงานเก่าๆได้4. URL Inspection – คุณสามารถใช้ Google Seach Console และ URL เพื่อเพิ่มความเร็วให้ Google เข้ามาเก็บข้อมูลในเว็บหรือบทความของคุณได้ ซึ่งมีหลายบริษัทด้วยกันที่อยู่ในกลุ่มนี้5. Social Shares – กลุ่มนี้ใช้เครือข่ายสังคมเป็นวัสดุสำคัญสำหรับในการแชร์บทความ เพื่อทำให้มีคนเห็นบทความของพวกเขาได้มากขึ้น6. Goolge Chrome Lookup – มีปริมาณ 40 บริษัทในกลุ่มนี้ ที่พิมพ์ URL ลงใน address bar โดยตรงเพื่อเป็นการค้นหาเว็บ ซึ่งจะใช้งานได้ใน Google Chrome จากทั้งยังโทรศัพท์เคลื่อนที่และคอมพิวเตอร์ Neil เพิ่มกลุ่มนี้เข้ามา ด้วยเหตุว่าอยากรู้ว่าการเข้าชมเว็บไซต์ผ่าน Google Chrome นั้นมีผลต่อชั้น Google หรือไม่7. Meta Tags – คณะทำงานของ Neil ได้ปรับ Tag และก็ Meta description ไว้ให้สำหรับทุกบริษัทโดยอ้างอิงจากชื่อบทความต่างๆNeil แนะนำว่า ไม่ใช่คีย์เวิร์ดเพียงอย่างเดียวที่สำคัญกับ Meta Tags แต่ควรมีแรงดึงดูดให้ผู้ใช้งานคลิกเข้ามาอ่านอีกด้วย8. URL – ในกลุ่มนี้ Neil แค่เพียงจำกัด URL ของบทความแค่นั้น โดยกำหนดว่า ชื่อควรจะมีความยาวไม่เกิน 50 ตัวอักษร ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับการตั้งชื่อเช่นกัน9. Everything – กลุ่มนี้ใช้แผนการจากทั้ง 7 กลุ่มก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา (ยกเว้น Control Group) มาปรับใช้เข้าด้วยกันNeil ทำทดลองและก็แบ่งกลุ่มอย่างเคร่งครัด ด้วยเหตุนี้ เว้นเสียแต่กรุ๊ป Everything แล้ว จึงไม่มีกรุ๊ปไหนที่ใช้วิธีการหลายชนิดปะปนกัน และก็โน่นช่วยทำให้เห็นผลลัพธ์และก็ประสิทธิภาพของแต่ละอุบายได้ง่ายมากยิ่งขึ้นControl Groupคุณเคยสงสัยไหมว่า เว็บที่มีคะแนนโดเมนไม่เกิน 30 คะแนนและก็มีชั้นไม่สูงนั้น มีชั้นรวมทั้งคีย์เวิร์ดเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไร ภายในช่วงเวลา 1-2 เดือน?จากแผนภูมิ เส้นสีส้มแสดงชั้นของเว็บข้างใน 30 วันแรก และก็เส้นสีเขียว แสดงชั้นของเว็บภายใน 60 วันแรกที่เผยแพร่บทความเกิดเรื่องน่าตกใจที่ได้มีความคิดเห็นว่าบทความที่ไม่ประชาสัมพันธ์ มีลิงก์น้อย รวมทั้งมีคะแนนโดเมนต่ำ จะสามารถติดอันดับบนหน้าผลการค้นหาของ Google ได้เช่นกัน แล้วก็ที่น่าตกใจมากขึ้นไปอีกเป็น การที่ชั้นของเว็บไซต์ยังคงมากยิ่งขึ้นถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วระยะหนึ่งSitemapอาจเคยมีผู้แนะนำคุณมาบ้างแล้วว่า ควรจะลองใช้ยุทธวิธี XML Sitemap ซึ่งพวกเราเห็นด้วยกับข้อแนะนำนั้น เพราะมันเป็นแนวทางที่จำเป็นอย่างมาก ถ้าหากคุณมีคะแนนโดเมนต่ำ ตกลงว่าให้แผนภูมิชี้แจงคุณก็แล้วกันแม้เว็บของคุณมีคะแนนโดเมนต่ำแล้วก็มีลิงก์น้อย คุณจะพบว่า Google จะไม่เข้ามาเก็บข้อมูลของคุณหลายครั้งเท่าไรนัก แต่ถ้าคุณใช้กลอุบาย Sitemap คุณก็จะเพิ่มความเร็วในกรรมวิธีการการรวบรวมข้อมูลของ Google ได้ ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับในการรักษาเวลาเพื่อได้ชั้นที่น่าพึงพอใจInternal Linking Groupทุกเว็บล้วนปรารถนาลิงก์เพื่อมาช่วยทำให้อันดับ Google ดียิ่งขึ้น แม้กระนั้นลิงก์พวกนั้นส่วนมากจะเป็น external link หรือลิงก์จากด้านนอก และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้ external link มาในแต่ละครั้ง Neil ก็เลยทดลองทดสอบดูว่า ถ้าเป็น internal link หรือลิงก์ด้านในนั้นจะมีผลต่ออันดับมากน้อยแค่ไหนเมื่อคุณแนบลิงก์บทความเก่าๆในบทความใหม่ของคุณ มันจะช่วยให้ Google เข้าถึงคุณได้เร็วขึ้น รวมทั้งช่วยเพิ่มอันดับของเว็บไซต์ได้เร็วขึ้นได้อีกด้วย โดยเฉพาะลิงก์ของบทความที่เคยติดอันดับ Google ดี แล้วก็มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาใหม่ของคุณโดยจากผลการทดลองพบว่า เว็บไซต์ที่แนบ internal link 3 ลิงก์ ติดอันดับมากยิ่งกว่าเว็บที่ใช้อุบาย XML Sitemap เสียอีกURL Inspection Groupฟีพบร์ URL Inspection ใน Google Search Console เป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะทำให้ Google เข้าถึงเว็บของคุณได้เร็วขึ้น แต่ถ้าเกิดคุณไม่คุ้นกับฟีพบร์นี้ก็ช่างเถิด เราจะบอกแนวทางให้ เพียงคุณเข้าเข้าระบบที่ Search Console แล้วพิมพ์ URL บทความของคุณลงบน search bar หน้าจอของคุณก็จะปรากฏตามรูปข้างล่างต่อไปให้ท่านคลิกที่ "Request Indexing" ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสิ้น และก็ผลลัพธ์ของการใช้วิธีการนี้ก็ออกมาใกล้เคียงกับแผนการ Sitemap ตามกราฟที่แสดงข้างล่างSocial Shares GroupNeil จับสังเกตได้ว่าหากบทความใดของเขาแปลงเป็นไวรัล เนื้อหาใหม่ๆของเขาก็จะทะยานขึ้นสู่ชั้นสูงๆด้วยเหมือนกัน แม้ว่าจะติดอันดับเป็นระยะสั้น แม้กระนั้นก็เป็นเรื่องน่าพอใจไม่น้อยเลย ซึ่งนั่นนับว่า โซเชียลเน็ตเวิร์คก็มีผลต่อชั้นของเว็บไซต์ด้วยคำตอบของ Social Shares Group นั้นดีมากยิ่งกว่า Control Group แม้กระนั้นจะมีผลให้ชั้นขึ้นๆลงๆในทุกๆ2 เดือน ทั้งๆที่ควรมากขึ้นโดยตลอด หากว่ากลอุบายเครือข่ายสังคม จะไม่ได้ทำให้เว็บไซต์ติดอันดับได้อย่างยั่งยืน แต่ก็เป็นวิธีเผยแพร่เว็บได้ดิบได้ดี แถมยังเพิ่มช่องทางให้ท่านได้รับ backlink และความรักต่อสินค้าจากลูกค้าได้มากขึ้นGoogle Chrome Lookup Groupในการทดลองของ Neil มี 40 บริษัทด้วยกัน ที่พิมพ์ URL ของแต่ละบทความลงใน Google Chrome Neil จึงกระทำการตรวจอย่างเงียบๆเพื่อดูว่าผู้ใช้งานที่เข้ามามองเว็บเหล่านั้น อยู่ในหน้าเว็บถึง 2 นาทีหรือไม่รับทำ seo 2020, you could call us at the website.